Popular Posts

Sunday, February 24, 2013

วินโดว์ส 8 มีอะไรดีกว่า วินโดว์ส7


วินโดว์ส 8 มีอะไรดีกว่า วินโดว์ส7
 
ใกล้สิ้นสุดการรอคอยแล้ว สำหรับการพลิกโฉมหน้าการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ของค่ายไมโครซอฟท์ อย่าง 'วินโดวส์ 8' เวอร์ชันที่ร่ำลือว่า ไมโครซอฟท์ทุ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตุนเอาไว้ในห้องแล็ปมาไว้ในเวอร์ชันนี้แบบเต็มที่            
 
 ทีมงานไซเบอร์บิซได้มีโอกาสคุยกับวิศวกรที่เป็นหนึ่งในทีมพัฒนาวินโดว์ส 8 จากเรดมอนด์ สหรัฐอเมริกา ที่สำนักงานของไมโครซอฟท์ สิงคโปร์ ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ถึงไม่มากแต่ก็พอจะได้ข้อมูลฉบับย่อๆ มาเล่าสู่กันฟัง สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้มีโอกาสทดลองใช้งานด้วยตนเอง แต่สำหรับสาวกตัวพ่อคงจะได้ลองดาวน์โหลด วินโดวส์ 8 คอนซูเมอร์ พรีวิว (Windows 8 Consumer Preview) ไปทดลองใช้งานกันแล้วช่วงต้นปีที่ผ่านมา          
   เรื่องแรกที่ทีมวิศวกรไมโครซอฟท์เริ่มต้นกับการแนะนำวินโดวส์ 8 ก็คือ 1.ระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ ที่เรียกว่า Touch Gestures ที่จะต้องใส่รหัสผ่าน (พาสเวิร์ด) ด้วยการลากลูกศรบนรูปภาพที่ปรากฏบนจอภาพให้ถูกต้อง 3 ตำแหน่งก่อนที่จะเข้าไปใช้งาน แทนที่จะใช้วิธีการใส่พาสเวิร์ดที่เป็นตัวเลขหรือตัวอักษรเหมือนเช่นเคย วิธีนี้ถือว่าแปลกและเก๋ไก๋ดี เพราะผู้ใช้สามารถเซตรูปแบบการใส่รหัสผ่าน ไม่ว่าจะเป็นการวาดเป็นเส้นตรง วงกลม หรือจุดบนตำแหน่งภาพที่ตั้งค่าไว้เพื่อเริ่มลงชื่อใช้งาน        
 
   
 
 เชื่อว่าน่าจะช่วยลดปัญหาลืมรหัสผ่าน รวมถึงยังช่วยทำให้คาดเดารหัสผ่านของบุคคลอื่นที่เข้ามาดูข้อมูลผ่านในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อีกทางหนึ่งด้วย
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

2. หน้าจอที่เปลี่ยนไป ไมโครซอฟท์เรียกว่า เมโทร สไตล์ (Metro Style) มีหน้าตาเหมือนกับระบบปฏิบัติการวินโดว์สโฟนบนสมาร์ทโฟนของค่ายโนเกีย บนจอภาพดังกล่าวจะเป็นที่ติดตั้งแอปฯต่างๆ มีทั้งแอปฯที่อยู่ในตัวระบบปฏิบัติการเอง และแอปฯที่ดาวน์โหลดมาใช้งานที่สามารถรองรับได้เป็นร้อยแอปฯไม่ว่าจะเป็นแอปฯ พยากรณ์อากาศ แอปฯถ่ายภาพ แอปฯโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊ก ฟิกเกอร์ โดยผู้ใช้สามารถที่จะปรับเปลี่ยน เคลื่อนย้ายแอปฯได้สะดวกมาก           
 
   เพียงแค่แตะหรือเลือกแอปฯที่ต้องการย้ายแล้วลากไปวางในตำแหน่งที่ต้องการได้เลย สามารถเคลื่อนกลับไปกลับมาได้อย่างรวดเร็วและง่าย ในกรณีที่มีแอปฯอยู่จำนวนมาก สามารถที่จะซูมออกมาเพื่อให้เห็นแอปฯในมุมไกล เพื่อใช้ค้นหาหรือเคลื่อนย้ายแอปฯที่ต้องการได้ง่ายมากๆ          
 
 
 
 3. มีโหมดการใช้งานให้เลือก 2 โหมด โหมดแรกเป็นแบบทัชสกรีน ที่ทำงานบน แท็บเล็ตหรือจอภาพโน้ตบุ๊กรุ่นที่เป็นจอทัชสกรีน แต่ถ้าไม่มีจอทัชสกรีนที่ว่านี้ สามารถสั่งงานผ่านทางทัชแพดบนโน้ตบุ๊ก แต่ไม่ขอยืนยันว่าจะใช้ได้กับทัชแพดรุ่นเก่าหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ซีพียูของอินเทลที่เป็นไอวีบริดจ์ หรือคอร์ไอ เจนเนอเรชัน 3 เชื่อว่าน่าจะสบายใจได้ว่า ใช้งานได้ โดยหันมาสั่งงานผ่านทัชแพดแทนเหมือนกับที่ใช้บนจอทัชสกรีนทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนหน้าจอ เคลื่อนย้ายแอปฯไหลลื่นเหมือนกันทุกประการ
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

4. หมดยุคไอคอนแบบเดิมๆ ไมโครซอฟท์ได้นำเสนอยูสเซอร์อินเตอร์เฟซ (User Interface) แนวใหม่ ที่ผู้ใช้สามารถย่อหรือขยายไอคอนแอปฯที่มีลักษณะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมที่เรียกว่า Tile ที่ตนเองต้องการได้ โดยสามารถเห็นภาพหรือข้อมูลที่เปลี่ยนไปภายในแอปฯอย่างแอปฯรูปภาพ หรือแอปฯอย่างเฟสบุ๊กที่มีการปรับปรุงข้อมูลให้ทันทีที่มีข้อมูลใหม่ถูกส่งเข้ามา             
 
 5.สำรองข้อมูลผ่านคลาวด์ ถึงแม้ว่า ประเด็นนี้ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับคนใช้งานบนสมาร์ทโฟน หรือวินโดว์ส 7 อยู่แล้ว แต่สำหรับบนวินโดว์ส 8 รูปภาพสวยๆ ที่ถ่ายเอาไว้ ไฟล์เอกสารต่างๆ รวมถึงโปรไฟล์ต่างๆ ที่เดิมต้องพึ่งพิงแอปฯของผู้ให้บริการรายอื่นมีทั้งฟรีและไม่ฟรี อย่าง ดรอปบล็อก (Dropbox) แต่ครั้งนี้ ไมโครซอฟท์พร้อมแล้วที่จะผลักดันบริการคลาวด์เก็บข้อมูลของตนเองที่เรียกว่า สกายไดร์ฟ (SkyDrive) มาให้ใช้งานฟรีๆ เพียงแค่ลงทะเบียนเข้าใช้งานผ่านทางบัญชีข้อมูลวินโดว์ส ไลฟ์ ไอดี (Widows Live ID) เท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ที่ใช้วินโดว์ส 8 บนแท็บเล็ต แทนที่เก็บข้อมูลบนแท็บเล็ตที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลไม่มาก เบาใจไปได้เลยเพราะสามารถทำสำรองข้อมูลเก็บไว้บนคลาวด์ที่ไมโครซอฟท์เตรียมให้ไว้ถึง 25 กิกะไบต์            
 
 6.ซื้อขายแอปฯผ่านวินโดว์ส สโตร์ (Windows Store) เปลี่ยนแปลงไปจากวินโดว์ส 7 ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการซื้อขาย วิธีการติดตั้งและการทำงานของแอปฯทุกอย่างจะทำผ่านวินโดว์ส สโตร์เหมือนกับการซื้อขายแอปฯบนแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการอื่น ผู้ใช้ไม่ต้องจำเป็นรู้เรื่องการติดต่อแอปฯเหมือนเวอร์ชันก่อนหน้านี้อีกต่อไป เป็นผลดีมากๆ ต่อผู้ใช้งานที่ไม่มีความรู้ แถมยังจะได้แอปฯที่มีความหลากหลายให้ใช้มากกว่าเดิมทั้งที่เป็นแอปฯที่พัฒนาโดยไมโครซอฟท์เองหรือจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์รายอื่น            
 
 การซื้อขายหรือดาว์นโหลดแอปฯฟรีจากวินโดว์ส สโตร์จะทำผ่านวินโดว์ส ไลฟ์ ไอดีทั้งหมด โดยไมโครซอฟท์ใจดียอมให้ติดตั้งแอปฯเหล่านี้ในคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตได้สูงสุดถึง 5 เครื่อง สำหรับผู้ใช้ที่คุ้นเคยรูปแบบการทำงานแบบวินโดว์ส 7 ที่มีทูลบาร์ มีไอคอนวางไว้บนหน้าจอ และต้องการแอปฯพลังสูง เหมือนวิศวกรที่สาธิตวินโดว์ส 8 จะรู้คำถาม ก็เลยสาธิตให้ดู โดยในวินโดว์ส 8 นั้นสามารถสลับหน้าจอจากเมโทรสไตล์มาเป็นยูสเซอร์อินเตอร์เฟซแบบเดิมๆ ที่คุ้นเคยได้อย่างง่ายดาย              
 
7.เปลี่ยนวิธีการเข้าถึงแอปฯใหม่ โดยย้ายปุ่มเข้าใช้งานจากด้านล่างย้ายมาอยู่ด้านข้าง เวลาใช้งานก็แค่ลากนิ้วในกรณีที่ใช้บนจอทัชสกรีน หรือลากบนทัชแพด แต่ถ้าใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็ใช้เมาส์ ลากจากขอบจอภาพด้านขวามือเข้ามาตรงกลางก็จะปรากฏเมนูบาร์ขึ้นมา              
 
ในส่วนการปิดและสลับการใช้งานแอปฯ ก็เปลี่ยนไป สามารถใช้งานได้ถึง 3 วิธีคือ วิธีแรก เริ่มจากแตะหรือชี้เมาส์บริเวณมุมบนซ้ายมือก็จะปรากฏหน้าต่างแอปฯที่เปิดค้างไว้ ถ้ากดเมาส์ซ้ายลงไปพร้อมลากมาตรงกลางภาพและปล่อยคลิกเมาส์ซ้ายจะเป็นการเปิดแอปฯที่เปิดค้างไว้ ถ้าต้องการปิดแอปฯ ก็เพียงลากหน้าต่างแอปฯ ไปที่บริเวณด้านล่างจอเท่านั้น            
 
 วิธีที่สอง เริ่มจากมุมบนซ้ายเหมือนกัน ก็จะปรากฏหน้าต่างแอปฯที่เปิดค้างไว้ เลื่อนเมาส์หรือลากนิ้วชิดขอบจอซ้ายมือลงมาจะปรากฏแถบที่เรียกว่า มัลติทาสก์ (Multi Tasking ) แล้วก็จะปรากฏแอปฯต่างๆ ขึ้นมา การปิดก็แค่คลิกเมาส์ขวาและเลือกคำสั่ง Close บริเวณหน้าต่างแอปฯที่ต้องการปิด และวิธีที่สาม เคลื่อนเมาส์หรือนิ้วไปที่ด้านบนสุดของจอภาพจะเปลี่ยนเป็นรูปมือจากนั้นก็กดเมาส์ซ้ายค้างและเลื่อนหน้าต่างลงล่างสุดเพียงเท่านี้แอปฯ ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันจะถูกปิดทันที            
 
 ส่วนการที่ไมโครซอฟท์ใช้วิธีเริ่มต้นใช้งานวินโดว์ส 8 จากทางด้านขวามือนั้น ทำไมไม่เป็นการลากจากบนลงล่าง วิศกรของไมโครซอฟท์คนเดิมเล่าให้ฟังว่า เกิดจากการทำวิจัยถึงพฤติกรรมการใช้งานของคนเราจริงๆ ศึกษารูปแบบการใช้งานในอิริยาบทจนได้ข้อสรุปว่า ลากจากด้านขวามือมาทางซ้ายดีที่สุด            
 
 8.รูปแบบการค้นหา เข้าเว็บรวมถึงแชร์ข้อมูลเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ในวินโดว์ส 8 จะฝังเว็บบราวเซอร์ อินเทอร์เน็ต เอ็กพลอเลอร์ 10 (Internet Explorer) มาให้เรียบร้อย เพียงแค่ปัดนิ้วจากขอบด้านขวาของหน้าจอ แล้วแตะเมนูค้นหา (Search) หากใช้เมาส์ให้ชี้ไปที่มุมขวาบนของหน้าจอแล้วคลิกค้นหาก็จะปรากฎช่องให้กรอกคำหรือข้อความที่ต้องการค้นหาขึ้นมาทันที่ ไม่ต้องเสียเวลาเปิดแอปฯบราวเซอร์อีกต่อไป และสิ่งที่เปลี่ยนไปของเอ็กซ์พลอเลอร์อีกประการหนึ่งก็คือ ไม่จำเป็นต้อง Add On ปลั๊กอินอีกต่อไป เนื่องจากเวอร์ชันนี้สนับสนุนการเขียนเว็บไซต์ HTML 5

No comments:

Post a Comment