Popular Posts

Wednesday, February 20, 2013

คลื่นความถี่ 3G 2.1 GHz มีอะไรดี


คลื่นความถี่ 3G 2.1 GHz มีอะไรดี

ถ้าโลกของการใช้งาน 3G บนความถี่ 2.1 GHz ที่ใครหลายคนอาจจะมองว่ามันสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นขอให้คิดใหม่ได้แล้ว เพราะแม้ในความเป็นจริงจะทำให้สาวกสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตมีความเพลิดเพลินและใช้งานอินเทอร์เน็ตเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วแล้ว

เมื่อมองให้กว้างออกไปถึงแง่การใช้งานที่ก่อให้เกิดประโยชน์จากสังคมโดยรวม 3G 2.1GHz ที่รองรับการสื่อสารด้วยความเร็วสูงถึง 14 เมกะบิตต่อวินาที หรือเร็วกว่าการสื่อสารแบบ 2.75G ถึง 36 เท่านั้นให้อะไรให้มากกว่าที่คิด

1. ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่เน้นใช้แอป

เป็นธรรมดาเมื่อโครงข่ายมือถือมีความเร็วเพิ่มขึ้น การเข้าถึงสิ่งต่างๆ ยิ่งง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นนับจากนี้ไปจะได้เห็นการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ใครที่คุ้นเคยแค่เข้าเว็บเบราว์เซอร์ อาจทำให้ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่เพราะการพัฒนาแอปใหม่ๆ จะทำให้เข้าถึงบริการ ข่าวสาร และข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพียงปลายนิ้ว จิ้ม จิ้ม จิ้ม แล้วพิมพ์ไม่กี่ตัวเท่านั้น ก็จะได้ทุกสิ่งดังใจหวัง เรียกได้ว่าไม่ต้องรอเปิดหน้าเว็บเบราว์เซอร์หลายๆ หน้าเพื่อเข้าถึงสิ่งที่ต้องการเหมือนอย่างที่เคยทำ เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนและแอปประเภท self-care จะมีบทบาทสำคัญทำให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับผู้ให้บริการมากขึ้น

3G 2.1GHz นอกจากจะทำให้เข้าถึงได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังตามมาด้วยความสามารถในการเข้าถึงการซื้อสินค้าและการชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตที่จะทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้สำหรับการสแกน QR Code เพื่อเข้าถึงข้อมูลตามป้ายโฆษณาต่างๆ ก็จะทำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การดูคลิปวิดีโอ หนังหรือเข้าถึงเรื่องราวภาพเคลื่อนไหวเพื่อการตัดสินใจได้อย่างไม่สะดุด

ดังนั้นแม้แต่คนที่เพิ่งเริ่มใช้งานสมาร์ทโฟนหรือไม่เคยแม้แต่จะเข้าเว็บเบราว์เซอร์เลย เพียงแค่อ่านหนังสือออกและทำตามคำแนะนำก็จะสามารถใช้งานแอปต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และยิ่งในขณะนี้ราคาของสมาร์ทโฟนถูกลง ยิ่งจะทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ทำได้ง่ายขึ้นด้วย และแอปจะช่วยยกระดับวิถีชีวิตของคนต่างจังหวัดที่เคยห่างไกลให้ใกล้ความเจริญมากขึ้น รวมไปถึงยังช่วยทำให้นักการตลาดเข้าถึงลูกค้าได้ตรงเป้าหมาย สามารถนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆและก่อให้เกิดการสั่งซื้อที่ง่ายขึ้น เพราะเมื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความต้องการแล้ว พวกเขาจะเลือก และจิ้มสั่งซื้อได้ทันทีทุกที่ทุกเวลา
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

ช่องว่างระหว่างการศึกษาจะแคบลงด้วยเทคโนโลยี
2. ก้าวผ่านช่องว่างทางการศึกษา

3G กับเทรนด์อุปกรณ์ยุคใหม่อย่างแท็บเล็ตกำลังมาแรง และนักเรียน ป.1 บางส่วนเริ่มมีโอกาสได้ใช้งานกันแล้ว แต่หลังจากนี้การใช้งานแท็บเล็ตจะไม่ได้เป็นเพียงแค่การเล่นเกม การเล่นโซเชี่ยลมีเดียหรือเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะเมื่อความเร็วมากขึ้น การดาวน์โหลดตำราเรียนออนไลน์ การเข้าถึงเนื้อหาที่เป็นการเรียนการสอนแบบทางไกลจะถึงตัวผู้เรียนใกล้ยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยทีวีเพียงหน้าจอเดียวเพื่อรับสัญญาณดาวเทียมอีกต่อไป แต่นักเรียนทุกคนสามารถดูได้บนโต๊ะเรียนของตนเอง และสามารถตอบโต้ผ่านแท็บเล็ตได้อย่างทันทีเมื่อมีข้อสงสัยหรือต้องการตอบคำถาม สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการลดช่องว่างทางการศึกษาได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ในส่วนของการค้นหาข้อมูล ใช้งานด้านอินเทอร์เน็ตเพื่อการเข้าถึงความรู้ใหม่ๆ ตลอดจนการหาแรงบันดาลใจ ทั้งจากข้อมูลที่เป็นตัวอักษรหรือแม้แต่ภาพจากงานศิลปะจากทุกมุมโลก รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือในด้านต่างๆ จะง่ายมากขึ้น เนื่องจากเมื่อสัญญาณมือถือเข้าถึง และอุปกรณ์ของนักเรียนเหล่านั้นมีความพร้อม ก็จะไม่เป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงการเรียนรู้ที่ทัดเทียมกับเด็กในเมือง หรือแม้แต่โลกภายนอกที่กว้างไกลออกไป เผลอๆ อาจจะเก่งกว่าเด็กในเมืองที่มัวแต่หลงในเกมหรือโซเชี่ยลมีเดียเสียอีก

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
3. ยกระดับของความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

การมีอุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัยและสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลาจะทำให้ผู้ใช้งานมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้มากขึ้น เพราะในสมาร์ทโฟนต่างๆ จะมีแอปที่สามารถบ่งบอกตัวตนและจุดที่อยู่ได้อย่างแม่นยำผ่าน GPS หรือระบบแผนที่นำทาง ดังนั้นเมื่อตกอยู่ในสภาวะคับขัน การกดแอปเพียงครั้งเดียวนอกจากจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปถึงตำรวจแล้ว ยังสามารถทำให้พวกเขารับรู้จุดที่อยู่และเข้ามาช่วยเหลือได้อย่างถูกที่ถูกเวลาแบบเรียลไทม์ แม้แต่การจำหมายเลขรถแท็กซี่แบบเดิมๆ ก็จะกลายเป็นการแชร์ข้อมูลและทิศทางที่แท็กซี่กำลังจะพาไป ทำให้คนที่บ้านสามารถรับรู้ได้ว่าขณะนี้สมาชิกคนใดคนหนึ่งของบ้านอยู่ ณ จุดไหน นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อบันทึกและแชร์ส่งต่อไปยังหน่วยงานด้านความปลอดภัยได้อย่างทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์อีกด้วย

เช่นเดียวกับความปลอดภัยของบ้าน แม้ในปัจจุบันจะมีโฮมโซลูชันที่ช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถสอดส่องดูแลบ้าน และสามารถโทร.แจ้งทันทีที่พบความผิดปกติ แต่ด้วยความเร็วที่มากขึ้นนี้ นอกจากจะสามารถดูแลบ้านได้อย่างชัดเจนผ่านจอมือถือแล้ว ยังสามารถส่งสัญญาณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านให้ทำงานหรือหยุดทำงานได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นทีวี แอร์ และการเปิดปิดไฟภายในภายนอกบ้าน ผ่านเครือข่ายไวไฟภายในบ้านที่เชื่อมเข้ากับอินเทอร์เน็ตภายนอก ทำให้อุ่นใจได้มากกว่าเดิมหลายเท่า ยังไม่รวมในอนาคตเมื่อผู้ให้บริการพร้อม การคลิ๊กเพื่อสั่งของที่ขาดหรือพร่องในตู้เย็นก็สามารถทำได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องจอดรถแวะพักที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแต่อย่างใด
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

การค้นหาเส้นทางผ่าน 3G จะแม่นยำกว่าเดิม
4. การแพทย์ทางไกลผ่าตัดที่ไหนใช้หมอคนเดียวกัน

3G 2.1 GHz จะทำให้ความฝันของผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกล สามารถเข้าถึงการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วให้เป็นจริงได้ แม้ในปัจจุบันจะมีบางโรงพยาบาลที่ห่างไกล หรือสาขาของโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งเริ่มมีการให้ผู้ป่วยไม่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ แต่สามารถปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพผ่านทางวิดีโอกันบ้างแล้ว แต่ดูเหมือนยังไม่สนองตอบต่อการใช้งานแบบจริงจังและเข้าถึงผู้ป่วยที่อยู่ทางไกลได้จริงสักเท่าใดนัก แต่ด้วยความถี่ 2.1 GHz นี้ ความหวังของผู้ป่วยจะกลายเป็นจริง แม้จะอยู่ในชนบทที่ห่างไกล แต่ก็สามารถเข้าถึงแพทย์พร้อมทั้งปรึกษาปัญหา หรือแม้แต่การผ่าตัดและรักษาโรคที่แพทย์ประจำตำบลเหล่านั้นไม่เชี่ยวชาญ แต่ก็สามารถใช้ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อดำเนินการกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศได้ไม่ยาก

นอกจากนี้ด้วยภาพและเสียงที่จะสามารถส่งได้อย่างรวดเร็ว จะทำให้การส่งฟิล์มเอ็กซ์เรย์เพื่อให้แพทย์สามารถทำการวินิจฉัยได้แบบเรียลไทม์ และช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีก็จะไม่ได้เป็นเพียงความฝันอีกต่อไป และในส่วนของแพทย์เองก็ยังสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อเป็นการแชร์ข้อมูลทั้งในพื้นที่และโลกภายนอกได้แบบง่ายดายยิ่งขึ้น ทำให้รับรู้ปัญหาและวิธีการแก้ไขได้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่เคยไกลปืนเที่ยงก็จะกลายเพียงปลายนิ้วมือเท่านั้น

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

การประชุมทางไกลผ่าน 3G จะเข้ามามีบทบาทที่สำคัญ

5. การทำงานที่ไหลลื่นและตื่นเต้นกับความบันเทิงแบบจัดเต็ม

กระแส BYOD หรือการที่พนักงานสามารถนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้ในที่ทำงานได้ กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกและคาดว่าน่าจะกลายเป็นเรื่องยอดนิยมในไทยนับจากนี้ โดย 3G 2.1 GHz จะทำให้การใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ใช้อาจนั่งทำงานอยู่บนเครื่องพีซีที่ออฟฟิศ แล้วนำขึ้นไปไว้บนคลาวด์เพื่อที่จะนำไปทำต่อระหว่างทางผ่านแท็บเล็ต หรืออ่านเอกสารและอนุมัติผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดาย ด้วยโซลูชันที่หลายเวนเดอร์นำเสนอ นอกจากนี้ในการประชุมด่วนแบบเห็นหน้าจะสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศด้วยการใช้งานวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

เช่นเดียวกับความบันเทิง ที่การดาว์นโหลดไฟล์ภาพ เพลง หรือวิดีโอต่างๆ จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และสามารถชมภาพยนตร์ได้อย่างต่อเนื่องไม่ติดขัด นอกจากนี้ด้วยการเชื่อมต่อในหลายรูปแบบระหว่าง Wi-Fi และ 3G นั้นจะทำให้ผู้ชมสามารถดูหนังได้บนแท็บเล็ตในร้านกาแฟ ก่อนจะเปลี่ยนไปดูต่อในเครื่องเล่นมัลติมีเดียบนรถโดยไม่สูญเสียอรรถรสอีกด้วย เพราะในปัจจุบันรถยนต์หลากหลายยี่ห้อได้บรรจุซอฟต์แวร์ที่จะสามารถเชื่อมได้กับทั้งโทรศัพท์มือถือ และสามารถติดต่อสื่อสารกันเองภายในห้องโดยสารผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย

นอกจากนี้ในยุค 3G นี้ เราอาจจะมองผ่านคำว่า convergence แบบเดิมๆ ไปได้เลย เพราะปัจจุบันแนวโน้มใหม่ที่เรียกว่า omni convergence กำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่กระจายไปอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการสื่อสารทั่วโลก เป็นตัวขับเคลื่อนประสบการณ์ของผู้บริโภคในปัจจุบัน ด้วยการสร้างประสบการณ์การใช้บริการสื่อสารของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ลูกค้าจะได้รับบริการแบบเรียลไทม์ที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการอย่างครบครัน โดยไม่จำกัดประเภทของอุปกรณ์

อาทิ ในขณะที่คุณเป็นลูกค้าของผู้ให้บริการเครือข่ายหนึ่ง และกำลังขับรถโดยใช้โปรแกรม GPS ในสมาร์ทโฟนเพื่อบอกเส้นทางจากสถานที่ A ไปยังสถานที่ B ขณะขับรถอยู่นั้น คุณก็ได้รับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับราคาน้ำมันของสถานีบริการน้ำมัน บนเส้นทางที่กำลังขับขี่ไปถึงจุดหมาย และเมื่อคุณเติมน้ำมันที่ สถานีบริการน้ำมันแห่งนั้น คุณก็จะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นจำนวนนาทีที่จะได้โทร.ฟรี เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการพัฒนาแอปที่มีความร่วมมือจากหลากหลายบริษัทเพื่อนำเสนอบริการที่มากกว่าการ convergence แบบเดิม เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ รวมถึงการกำหนดรูปแบบใหม่ๆ ในการคิดค่าบริการ

ทั้งหมดอาจเป็นเพียงแค่การบริการพื้นฐานที่ทำได้จริงในเร็ววันนี้ และอาจจะพัฒนาไปได้ไกลกว่านี้เมื่อมีการจับมือร่วมกันของหลายๆ ผู้ให้บริการ ดังนั้นคงไม่ต้องกลัวว่าการใช้ 3G 2.1 GHz ของประเทศไทยจะมาช้าเกินไป แต่ให้กลัวว่าเมื่อบริการเหล่านี้มาถึงตัวคุณเองต่างหากที่ยังไม่กล้าใช้

ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9560000016822

No comments:

Post a Comment